tag:blogger.com,1999:blog-54762765901539555372024-02-01T22:07:52.637-08:00LANGUAGE EXPERIENCES FOR EARLY CHILDHOODแฟ้มสะสมงานรายวิชาการจัดการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.comBlogger14125tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-28742248308830196152010-10-06T23:43:00.000-07:002010-10-07T05:55:22.533-07:00เกมส่งเริมทักษะด้านภาษา<p align="left"> </p><p align="left"> </p><p align="center"><span style="font-family:arial;font-size:180%;color:#ff0000;">เกมส่งเสริมทักษะด้านภาษาสำหรับเด็ก</span></p><p align="left"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjgTgTvievhPZc0TrYocHwFPdkxZ0Nrsv9wtmmsfue5N67jdEKzH7azAtf7nmnrJJQ89SibEn-83Db-5F2SubwUMyj3R9dEcAQjFjvJ1c7q9gQWhS7BK0JrH_537M9dqITUu9lhkL8JB6ux/s1600/10597-0-20080129-4_1.jpg"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 591px; DISPLAY: block; HEIGHT: 336px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5525286231114124530" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjgTgTvievhPZc0TrYocHwFPdkxZ0Nrsv9wtmmsfue5N67jdEKzH7azAtf7nmnrJJQ89SibEn-83Db-5F2SubwUMyj3R9dEcAQjFjvJ1c7q9gQWhS7BK0JrH_537M9dqITUu9lhkL8JB6ux/s320/10597-0-20080129-4_1.jpg" /></a></p>ซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-24094855349263631172010-03-02T11:21:00.000-08:002010-10-07T01:41:48.489-07:00ข้อสอบปลายภาค วิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย<br />จงตอบคำถามต่อไปนี้<br />1. ในการจัดประสบกาณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยท่านต้องศึกษาในเรื่งใดบ้าง<br />ตอบ 1 เทคนิคการสอนภาษา<br />2 แนวคิดพื้นฐานการสอนภาษา<br />3 หลักการสอน<br />4 ความหมายของภาษา<br />5 ความสำคัญของภาษา<br />6 หลักการจัดประสบการทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย<br />................................................................................................................................<br />2. การจำประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยมีวุตถุประสงค์อะไร<br />ตอบ 1 เพื่อพัฒนาทักษะการพูดการอ่าน<br />2 เพื่อส่งเสริมทักษะทางการพูด การอ่านให้มีประสิธิภาพ้ชิงสร้างรรค์<br />3 เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เองตามธรรมชาติ<br />4 เพื่อส่งเสริมประสบการณ์ทักษะทางภาษาของเด็กตามเกณฑมาตรฐาน<br />...............................................................................................................................<br />3. หลักการจัดประการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยมีอไรบ้าง<br />ตอบ 1 ครูมีหน้าที่จัดประสบการณ์ให้เด็กเสริมสร้างทักษะการพูด ฟัง อ่าน เขียน ของเด็กครูต้องยอมรับฟัง ตั้งใจฟัง ไม่ควรมีอคิตต่อการใช้ภาษาของเด็ก แต่สิ่งที่ควรคำนึงว่าครูไม่ใช่ผู้<br />ป้อนควมรู้และประสบการณ์ให้แก่เด็ก<br />2 เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจเกิความสนุนสนานกับการใข้ภาษา<br />..........................................................................................................................<br />4. ท่ามมีแนวทางการให้ความรู้กับผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาทางภาษาได้อย่างไรบ้าง<br />ตอบ ในการพูดสื่อสารใช้การใช้ภาษาที่ถูกต้องและชัดเจนผู้ปกครองควรใส่ใจในการในภาษากับลูก เพราะเด็กวัยนี้เป็นวัยที่เลียนแบบถ้าลูกได้ยินผู้ปกครองพูดคำไสภาพออกมาเด็กจะจดจำและจะพูดตาม ผู้ปกครองควรมีการสนทนากับลูกเพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ภาษาได้เร็วขึ้น หรือผู้ปกคองควรเล่านิทานให้ลูกฟังและสังเกตฟฤติกรรมลูกว่ามีการเรียนรู้และเข้าใจทางด้สนภาษาการสื่อสารหรือไม่<br />...................................................................................................................................................<br />5. ท่านเลือกกิจกรรมส่งเริมพัฒนาทางภาษาที่ชอบที่สุดพร้อมให้เหตูผล<br />ตอบ ชื่อกิจกรรม : "นิทานของหนู"<br /> วัตุประสงค์ : <br /> 1. เพื่อฝึกให้เด็กมีความตั้งใจและสนใจฟังนิทาน<br /> 2. เพื่อให้เด็กรู้จำคำต่างและรูปร่างลักษณะสิ่งต่างจากนิทาน<br /> 3. เพื่อส่งเสริมให้ได้เรียนภาษาและรักการอ่าน<br /> 4. เพื่ออส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และจิตนาการของเด็ก<br /> กิจกรรม :<br /> ครูให้เด็กๆระบายสีรูปภาพที่ครูเตรียมให้เด็กๆเลือกเลือกภาพตามควมชอบใจชอบของเด็กๆคนละ 1รูป เมื่อเด็กๆระบายสีเสร็จแล้วครูจะนำรูปของ<br /> เด็กที่ระบายสีเสร็จเข้าเล่ม ครูและเด็กๆช่วยกันแต่งเรื่องราวขึ้นมาเอง ตามความคิดของเด็กๆครูจะเป็นคอยช่วยต่อเติมเรื่องราวให้สมบูรณ์ ครูจะเอา<br /> นิทานที่เด็กช่วยกันทำมาเล่นกันในห้องเรียนทำเด็กมีความประดับใจ และอยากฟังเพาระเป็นนิทานที่ได้ได้ทำขึ้นเอง<br /> การประเมิน : <br /> 1.สังเกตการมีส่วนร่วนแสดงความคิดเห็น<br /> 2. สังเกตการสนทนาและฟังนิทาน<br /> 3. สังเกตจากผลงานรูปภาพระบายสีซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-68925555579863505302010-02-26T01:04:00.000-08:002010-02-26T01:14:19.427-08:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWapbISWxb_I5LWuYzamMFAqMm3jRDdYw8Rsa-eaHWSmE0Zsn1z-3CPzsIw5JDX4KPNiYI7wHfPdNMewFZvq1loku8fgKxjes6HqfVSmZxsI_bKL1Q_ESDXPYLl5tZgJwU6bbcoOIElqEU/s1600-h/images.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5442477277699103778" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 96px; CURSOR: hand; HEIGHT: 128px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWapbISWxb_I5LWuYzamMFAqMm3jRDdYw8Rsa-eaHWSmE0Zsn1z-3CPzsIw5JDX4KPNiYI7wHfPdNMewFZvq1loku8fgKxjes6HqfVSmZxsI_bKL1Q_ESDXPYLl5tZgJwU6bbcoOIElqEU/s320/images.jpg" border="0" /></a><br /><div><br /><span style="font-family:courier new;"><strong><span style="color:#ff0000;">นิทาน เรื่อง.... แม่ไก่สีแดง (สั้นๆแบบสรุป)</span></strong><br /></span></div><br /><div><span style="font-family:lucida grande;color:#000099;">" แม่ไก่สีแดง " ซึ่งวันนี้อาจารย์ได้เรื่องการจัดประสบการณ์ทางภาษาในให้เล่า<br />และวิเคราะห์เรื่องแม่ไก่สีแดง....<br />จากที่ได้ไปศึกษาเนื้อเรื่องแม่ไก่สีแดงดิฉันจะเล่าตามความเข้าใจของฉันนะคะ...<br />เรื่องมีอยู่ว่า...ในบ้านหลังหนึ่งมีสัตว์ 4 ชนิดคือ หมู แมว เป็ด และแม่ไก่สีแดง<br />แม่ไก่สีแดงเป็นสัตว์ที่ขยันกว่าตัวอื่นๆ วันหนึ่งชาวนาจึงให้ข้าวมากระบุงหนึ่ง...<br />แม่ไก่ถามเพื่อนๆว่า "มีใครจะช่วยฉันตำข้าวบ้าง"หมู แมว เป็ดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " ไม่ ! "<br />จากนั้นแม่ไก่ก็ถามต่อว่า"ใครจะช่วยฉันขูดมะพร้าวบ้าง" สัตว์ทุกตัวก็ตอบอีกว่า "ไม่"<br />แม่ไก่แดงไปที่กระต่ายขูดมะพร้าว ขูดมะพร้าวคั้นกะทิจนเสร็จ แม่ไก่แดงก็ถามอีกว่า "มีใครจะช่วยฉันติดไฟบ้าง" สัตว์ทุกตัวก็ปฏิเสธการการขอความช่วยเหลือจากแม่ไก่สีแดง<br />พอแม่ไก่แดงติดไฟเสร็จแล้วก็เริ่มหยดน้ำแป้งและน้ำกะทิลงในเบ้าขนมครก พอขนมครกนั้นสุกได้ที่ ก็สิ่งกลิ่นหอมหวนชวนรับประทาน หมู แมว และเป็ด ต่างก็วิ่งมาดูขนมครกรู้สึกอยากกินขนมครกนั้นเป็นอย่างมาก....<br />แม่ไก่สีแดงก็ถามว่า "มีใครอยากช่วยฉันกินขนมครกบ้าง"หมู เป็ดและแมวรีบตอบโดยเร็วว่า "ฉันจะช่วย"แต่แม่ไก่แดงตอบว่า.... "อย่าช่วยฉันเลย,, ฉันทำทุกอย่างได้เอง ฉันตำข้าว โม่แป้ง ขูดมะพร้าว ติดไฟ แคะขนมครกเอง และฉันก็จะกินขนมครกของฉันเองเหมือนกัน" แล้วแม่ไก่สีแดงก็ยกจานขนมครกไปนั่งกินคนเดียวตามลำพัง...."แต่จริงๆแล้วแม่ไก่สีแดงก็อยากให้เพื่อนๆมากินขนมครกด้วยกัน แต่คิดว่าควรให้เพื่อนๆสำนึกสักครั้งว่า ไม่ควรเอาแต่สบายให้เพื่อนทำงานอยู่คนเดียวแล้วหวังผลแต่จะสบาย "<br />หมู เป็ดและแมวรู้สึกเสียใจมาก ดังนั้นในวันต่อๆมาพวกเพื่อนๆจึงไม่ปล่อยให้แม่ไก่สีแดงต้องทำนตามลำพังอีกแต่จะช่วยกันทำงานเสมอ แม่ไก่สีแดงรู้สึกสบายใจ... เพื่อนๆก็มีความสุข^^<br />The End ...<br />จากเรื่องแม่ไก่สีแดง ได้แง่คิดในเรื่องของ<br />" ความสามัคคีกัน "</span></div>ซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-75167392495434235112010-02-12T01:47:00.000-08:002010-02-12T02:31:51.157-08:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiOt-_M7Q7PmHMDXQz2fZ6Wmuk5fmbpknEc8lJ3wH02uxUtzFkU0wcsKk6Y0FQG-9M96jsTeEcyvYYrCg71rHf63YQpxEVBzi0mTD6uZiXWm1Bt6Ik4Fiw8KwhT_EOpqrgnBHp7e_RXL474/s1600-h/JPEG.bmp"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5437291636173631746" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 200px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiOt-_M7Q7PmHMDXQz2fZ6Wmuk5fmbpknEc8lJ3wH02uxUtzFkU0wcsKk6Y0FQG-9M96jsTeEcyvYYrCg71rHf63YQpxEVBzi0mTD6uZiXWm1Bt6Ik4Fiw8KwhT_EOpqrgnBHp7e_RXL474/s320/JPEG.bmp" border="0" /></a><span style="font-size:180%;color:#cc33cc;"> </span><br /><span style="font-size:180%;color:#cc33cc;"><span style="font-family:courier new;">นิทานเรื่อง....แตงโมปวดฟัน</span></span><br /><br /><span style="color:#cc33cc;">แตงโมเป็นเด็กที่ชอบกินขนมลูกอมและลูกกวาดสีสวยๆ มากที่สุด แต่คุณแม่ไม่ชอบให้แตงโมกินขนม ลูกอม คุณแม่มักบอกกับแตงโมเสมอว่า ลูกอมลูกกวาดนั้นนีน้ำตวลที่ทำให้ฟันเราผุ วันนี้คุณยายกลับมาจากต่างประเทศ คุณยายซื้อลูกอมมาฝากแตงโมเยอะแยะเลย แตงโมดีใจมาก คุณยายกลับแล้วแตงโมก็หอบขนมไปกินบนห้องอย่างมีความสุข แม่บอกแตงโมว่ากินลูกอมไม่ประโยชน์นะลูก ถ้าแตงโมกินลูกอม ลูกกวาดแยอะ จะทำให้ปวดฟันนะคะลูก แตงโมไม่เชื่อคุณแม่เมื่อกินขนมเสร็จแตงโมไม่ยองแปรงฟัน บรรณดาแมงกินฟันพากันแอบดูแตงโมอยู่ข้างหน้าต่าง พวกมันเฝ้ารอที่จะเข้าไปในฟันของแตงโม วันรุ้งขึ้นขณะที่แตงโมกำลังอ่านหนังสืออยู่ แตงโมก็ปวดฟัน ร้องไห้วิ่งไปหาคุณแม่ แตงโมจึงอ้าปากให้คุณแม่ดูแล้วบอกว่าปวดซี่ไหน แตงโมปวดฟันมากจนแก้มบวม คุณแม่พูดว่า '' แม่เคยเตือนแตงโมแล้วนะคะ '' ไม่ให้กินขนมหวาน จะทำให้ปวดฟันอย่างนี้ คุณแม่จึงพาแตงโมไปหาลุงหมอ ซึ่งเป็นลุงหมอฟันใจดี ที่ร้านลุงหมอแตงโมพบเด็กๆอีกหลายคน ทุกคนต่างปวดฟันเพราะกินขนม ลูกอมหวานๆ พอลุงหมอรักษาฟันแตงโมเสร็จก็สอนวิธีให้แตงโมแปรงฟันให้สะอาด บ้วนปากหลังกินอาหาร และห้ามกินลูกอม เมื่อแตงโมกลับบ้าน แตงโมจึงพูดกับแม่ว่า '' แตงโมเข็ดแล้วคะคุณแม่ แตงโมจะไม่กินลูกกวาดอีกแล้วค่ะ ''<br /></span><br /><span style="font-size:180%;color:#cc0000;">เพลง....แปรงฟัน</span><br /><span style="color:#ff0000;">ตื่นเช้าเราแปรงฟัน กินอาหารแล้วเราแปรงฟัน</span><br /><span style="color:#ff0000;">ก่อนนอนเราแปรงฟัน ฟันสะอาดขาวเป็นเงางาม</span><br /><span style="color:#ff0000;">แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง (ซ้ำ)</span><br /><br /><span style="font-size:130%;color:#000099;">เพลงแปรงฟัน<br />ตื่นเช้าล้านหน้าแปรงฟัน แปรงฟันทุกทุกวันฟันจะสวยดี<br />แปรงขึ้นแปรงลงเข้าซิ วันละสองทีแปรงฟัน แปลงฟัน</span>ซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-52815340681759399262010-02-05T01:42:00.001-08:002010-02-05T01:42:59.931-08:00วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553<br />วันที่5/2/53 <br />วันนี้นำเสนอ ผลการจัดกิจกรรมทางภาษา<br />ในหัวข้อ บันทึกเสียงนิทาน<br />และของเพื่อนคือ สนุกกับคำสั่ง<br />sild สวยดี ตัวหนังสือค่อนข้างเยอะ <br />การนำเสนอของเพื่อน ติดขัด<br />คงเนื่องมาจากความตื่นเต้นซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-24293111289240086742010-01-29T02:40:00.000-08:002010-01-29T02:41:44.229-08:00บันทึกวันนี้ วันศุกร์ ที่29 มกราคม 2553<br />วันนี้อาจารย์ทบทวนและพูดคุยกับนักศึกษา เกี่ยวกับงานกลุ่มที่สั่งให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม4คน 6กลุ่ม จัดกิจกรรมทางภาษาที่โรงเรียนอนุบาลสาธิตจันทรเกษม อาจารย์บอกรายละเอียดและยกตัวอย่างกิจกรรมของแต่ละกลุ่มให้นักศึกษาฟัง และฝึกให้นักศึกษาคิดตาม พร้อมทำความเข้าใจ<br />-พร้อมทั้งให้นักศึกษาทำตารางการจัดกิจกรรมทางภาษาส่งมาให้อาจาย์ดูทุกกลุ่ม<br />-รวมทั้งอาจารย์ตรวจงานปริศนาคำทายให้กับนักศึกษา และยกตัวอย่างการพิมพ์คำและแยกคำเพื่อใช้ในการอ่านให้เด็กอ่านง่ายและให้เด็กได้จำคำต่างๆได้ซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-50307864940560754512010-01-15T00:47:00.000-08:002010-01-15T00:56:39.684-08:00บันทึกการเรียนวันนี้ (วัน ศุกร์ ที่ 15 53)<br />1. อาจรย์ได้ชี้แจ้งงานที่ต้องเล่านิทานให้เด็กและทำตารางการเล่านิทาน<br /> - โรงเรียนอนุบาลสาธิตจันเกษม ชั้น อ.1-3<br /> - วันที่ 22 ให้ลงเล่านิทานให้เด็กฟัง<br />2. อาจารย์ให้ส่งงานคำทายปริศนา และออกทายเพื่อนๆในห้องเรียนซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-85499382622090815242009-12-11T01:36:00.001-08:002009-12-11T01:41:21.089-08:00บันทึกการเรียนการสอนบันทึกครั้ง 5<br /> <br /> วัน ศุกร์ ที่ 11 ธันวาคม 2552<br /><br /><br /><br />1.อาจารย์ให้รายงานนำเสอนหน้าชั้นเรียน<br /> เรื่อง การจัดประสบการณ์สำหรับเด็ก<br />2.อาจาราย์แนะนำเพิ่มเติมซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-35772596883036411612009-12-11T01:36:00.000-08:002010-01-15T01:03:12.305-08:00บันทึกครั้ง 5<br /><br /><br />1.อาจารย์ให้ส่งงานซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-19951010190912034322009-12-04T01:44:00.000-08:002009-12-04T02:06:04.610-08:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj5I4dxEZAtL8t6MhlV-vps9Yac6ath0cUxpOXUTJjfD7LDmVsb8LzoCsViYl_gC-vlSLFC5JU3llQ__toVCdP3YJLtpxX2q16De75NVY7R2PrUdKoAPpNSlWdoryMJfHLQzknTFCV1-jy8/s1600-h/images.jpg"><img style="float:right; margin:0 0 10px 10px;cursor:pointer; cursor:hand;width: 125px; height: 110px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj5I4dxEZAtL8t6MhlV-vps9Yac6ath0cUxpOXUTJjfD7LDmVsb8LzoCsViYl_gC-vlSLFC5JU3llQ__toVCdP3YJLtpxX2q16De75NVY7R2PrUdKoAPpNSlWdoryMJfHLQzknTFCV1-jy8/s320/images.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5411320164497060514" /></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiwX1X2l_gGY2pFQLvHzUE5Qc31FMw_CPlexcSuqWjcvDQu7YO_mbCN5imlEXKrFzV486cVcmXCXY7jQQd5LikBhAsQOkxZ_YRV-dKtghtDlMAWg-VqYB0cL0xq9z01ojfBXaouY5nJSNTB/s1600-h/images.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 125px; height: 110px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiwX1X2l_gGY2pFQLvHzUE5Qc31FMw_CPlexcSuqWjcvDQu7YO_mbCN5imlEXKrFzV486cVcmXCXY7jQQd5LikBhAsQOkxZ_YRV-dKtghtDlMAWg-VqYB0cL0xq9z01ojfBXaouY5nJSNTB/s320/images.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5411319833055109442" /></a><br /><span style="font-family:times new roman;">วันศุกร์ ที่4 ธันวาคม 2532</span><br /><span style="font-family:Times New Roman;"> </span><br /><span style="font-family:Times New Roman;"> บันทึกการเรียนครั้งที่ 5</span><br /><span style="font-family:Times New Roman;">1.อาจารย์ให้นำเสมองานกลุ่ม</span><br /><span style="font-family:Times New Roman;"> - เรื่องหลักการจัดประสบการณ์ให้แก่เด็กปฐมวัย</span><br /><span style="font-family:Times New Roman;"></span><br />หลักการจัดประสบการณ์ให้แก่เด็กปฐมวัยนั้น ควรจัดให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กคำนึงถึงตัวเด็กเป็นหลักจัดประสบการณ์ให้เด็กเพื่อส่งเสริมพัฒนาทุกด้าน เช่น ทักษะทางภาษา<br />ความหมายของภาษา ความสามารถทางภาษา หมายถึง การรับรู้และการแสดงออกทางภาษาโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเด็กอายุ 5-6 ปี แบ่งเป็น 4 ด้าน ดังนี้<br /> 1 ความสามารถด้านการฟัง หมายถึง การตั้งใจรับรู้เสียงที่ได้ยิน โดยสัมผัสทางหูและส่งไปผ่านสมอง เพื่อแปรความหมายให้เกิดความเข้าใจในสิ่งที่ได้ยิน 2 ความสามารถด้านการพูด หมายถึง การเปล่งเสียงออกมาเป็นคำ ประโยคอย่างมีความหมาย หรือแสดงออกเป็นภาษาท่าทาง เพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจ 3 ความสามารถด้านการอ่าน หมายถึง การแปลความหมายจากสื่อ สัญลักษณ์ ที่เห็นของจริง แผ่นภาพ ตัวอักษรได้อย่างถูกต้อง 4 ความสามารถด้านการเขียน หมายถึง การบังคับกล้ามเนื้อมือ ให้สัมพันธ์กับตาและสามารถเขียนเป็นภาพ สัญลักษณ์ ตัวอักษรให้ผู้อื่นเข้าใจความหมาย<br />ความสามารถทางภาษาที่กล่าวข้างต้นนี้<br /> สามารถวัดโดยการเก็บรวบรวมผลงานที่เด็กสร้างขึ้น ปัจจุบันการจัดสิ่งแวดล้อมที่ดีมีสถานเลี้ยงเด็กที่ได้มาตรฐาน มีพี่เลี้ยงเด็กที่มีความรู้ เข้าใจ ความต้องการ พัฒนาการเด็กจะส่งผลให้เด็กได้รับความรัก ความอบอุ่น ความมั่งคงทางจิตใจ เมื่อเด็กโตขึ้นสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้อย่างมีความสุข หนังสือสำหรับเด็กจะทำให้เด็กเป็นผู้มีสุขภาพจิตดี มีความสุข มองโลกในแง่ดีและปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ ในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็กปฐมวัยเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในการสร้างหนังสือสำหรับเด็ก การอ่านคำกลอนให้เด็กฟังเป็นเทคนิคหนึ่งที่นิยมนำมาใช้กับเด็กปฐมวัย ทั้งนี้เพราะคำกลอนเป็นสื่อที่เด็กคุ้นเคย ให้ความสนุกสนานและความรู้ เด็กสามารถเก็บความจากเรื่องที่ฟังได้สมควรแก่วัย การที่ครูอ่านคำกลอนให้เด็กฟังแล้วให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์จากคำกลอนโดยครูมีคำถามมาใช้ประกอบการจัดกิจกรรมความคิดสร้างสรรค์ด้วยนั้น เป็นการส่งเสริมการแสดงออก ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์<br /><br />แหล่งที่มา <a href="http://www.kroobannok.com/view.php?article_id=5868">http://www.kroobannok.com/view.php?article_id=5868</a> <a href="http://www.vcharkarn.com/vblog/34707/2">http://www.vcharkarn.com/vblog/34707/2</a>ซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-9453785571501602872009-12-03T02:24:00.000-08:002009-12-04T00:32:21.443-08:00สรุปเทคนิคการสอน<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi4TdfU9TbFLV0R0-5t629jxQlXFlTBAnT27gg318e_l_73UXepg_khI2FOc1XRWYJ1hoDSd5QnXamLVETXizWr6HV9Xdboffh7w5a7uCqCtpaFB5vhEMn88LPoi4vRHgnuvenj7ZwO_tLb/s1600-h/id_5652%5B1%5D.gif"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5411295982597078946" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 120px; CURSOR: hand; HEIGHT: 96px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi4TdfU9TbFLV0R0-5t629jxQlXFlTBAnT27gg318e_l_73UXepg_khI2FOc1XRWYJ1hoDSd5QnXamLVETXizWr6HV9Xdboffh7w5a7uCqCtpaFB5vhEMn88LPoi4vRHgnuvenj7ZwO_tLb/s320/id_5652%5B1%5D.gif" border="0" /></a><br /><div><span style="color:#ff6666;"><span style="font-family:times new roman;font-size:180%;">...บันทึกครั้งที่4</span> ...<br /></span>เทคนิคการสอนภาษา<br />การสอนภาษาสำหรับเด็กไม่ใช้เพียงการสอนเฉพาะทักษะการอ่านและการเขียนเท่านั้นครูสามารถประเมินการสอนได้โดยสังเกตเด็กว่าเด็กรู้สึกเครียด เบื่อ ไม่สนุก แสดงว่าครูสอนไม่ถูกต้อง<br />แนวคิดพื้นฐานของการสอนภาษา<br />1. ครูต้องรู้ว่าเด็กของเราเรียนรู้ได้อย่างไร<br />2. ประสบการณ์ทางด้านภาษาเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา<br />3. เชื่อว่าเด็กทุกคนสามารถเรียนรู้ได้<br />4. เด็กเรียนรู้ได้ดี ถ้าสอนแบบ Whole Language คือ<br />- สอนอย่างเป็นธรรมชาติ<br />- สอนอย่างมีความหมายต่อเด็ก<br />- สอนแล้วเด็กสามารถนำคำสอนไปใช้ได้ด้วย<br />- เนื้อหาที่จะสอนจะต้องใช้ในชีวิตประจำวัน<br />5. เด็กจะเรียนรู้ได้ดีจะต้องเกิดจากการตัดสิ้นใจของเด็กเอง<br />6. .ให้เด็กรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมของห้อง<br />7. ไม่ควรทำเด็กรู้สึกกดดัน<br />8. ครูจะต้องสอนทักษะไปพร้อมๆกัน<br />9. ทำให้การเรียนรู้เป็นสิ่งที่น่าสนใจและสนุกสนาน<br />ครูสอนภาษาได้อย่างไร<br />การจะเริ่มสอนภาษาให้เด็กควรเริ่มจากสิ่งที่เด็กสนใจ ครูต้องยอมรับภาษาที่เด็กใช้ จะต้องทำการประเมินหรือสังเกตเด็กในเรื่องเรียนว่าเด็กทำได้มากน้อยเพียงใด และควรส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงตน ในความรู้สึก กล้าลองผิดลองถูก และพัฒนาด้านจิพิสัย<br />ข้อควรปฏิบัติในการสอนภาษา<br />ครูควรสอนให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ควรบูรณาการ การเรียนการสอนให้น่าสนใจ จัดกิจกรรมให้เด็กเก่งและเด็กอ่อนมีส่วนร่วมด้วยกันเพื่อมิให้เด็กเกิดปมด้อย ครูควรทำให้เด็กเกิดความสนใจ ในการสอนเกิดแรงกระตุ้นให้เด็กจำคำต่างๆและสอนให้เด็กสะกดชื่อตัวเอง ครูควรเขียนให้เด็กดูเพื่อให้เด็กจดจำได้ง่าย</div>ซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-71045254705855379492009-11-13T01:06:00.000-08:002009-11-13T01:52:29.131-08:00วันที่ ศุกร์ 13 52<br /><br />วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษา แบ่งกลุ่ม กลุ่ม 5 คน ให้ศึกษาค้นคว้า<br />เรื่อง หลักการจัดประสบการณ์ ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย<br /> ค้นหาจาก:(http://www.mahidol.ac.th/mahidol/ra/rapc/c4.html)<br /> ค้นหาจาก <a href="http://www.vcharkarn.com/vblog/34707/2 ">http://www.vcharkarn.com/vblog/34707/2</a><br /><br />กระบวนการจัดการเรียนรู้และประสบการณ์ภาษา (เสริม)<br />การจัดการเรียนรู้และประสบการณ์ภาษา สำหรับเด็กปฐมวัยที่จะให้ได้รับผลสำเร็จตามเป้าหมาย ต้องมีองค์ประกอบและการดำเนินงาน ต่อไปนี้<br />1. การวางแผนการจัดการเรียนรู้<br />2. หลักการจัดการเรียนรู้ทางภาษา<br />3. บทบาทและหน้าที่ของครู<br />4.การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการสอนภาษาตามธรรมชาติ<br />เด็กปฐมวัยเป็นวัยที่มีพัฒนาการต่อจากวัยทารกอยู่ในช่วงอายุ 3 – 6 ปี ซึ่งนักจิตวิทยาและนักการศึกษา ต่างให้ความสำคัญกับเด็กในวัยนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กในช่วงอายุ 6 ปีแรก ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และมีพัฒนาการทางด้านต่างๆอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเจริญเติบโตทางร่างกาย ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสัดส่วนในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับวัยผู้ใหญ่มากขึ้น ความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ รวมถึงรูปแบบการคิดอ่าน การสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลแวดล้อม ตลอดจนการพัฒนาความเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ซึ่งโดยปกติเด็กวัยนี้จะมีพัฒนาการที่สำคัญคือ<br />1. พัฒนาการทางด้านร่างกาย เช่น แขนและขาจะยาวออกไป ศีรษะจะได้ขนาดกับลำตัว โครงกระดูกแข็งแรงขึ้น เริ่มมีทักษะในการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น รู้จัก การป้อนข้าวเอง แต่งตัวได้เอง ใส่รองเท้าและอาบน้ำได้ด้วยตนเอง ในปลายวัยเด็กตอนต้นฟันแท้จะเริ่มขึ้น 1-2 ซี่<br />2. พัฒนาการทางอารมณ์ เด็กวัยนี้มักเป็นคนเจ้าอารมณ์ หงุดหงิด โกรธง่าย ดื้อรั้นเป็น<br />วัยที่เรียกว่าชอบปฏิเสธ และอาการดังกล่าวจะค่อยๆ หายไปเอง เมื่อเด็กเข้าโรงเรียนและมีเพื่อนเล่น แต่อย่างไรก็ตาม พัฒนาการทางอารมณ์ของเด็กจะมั่นคงเพียงใดขึ้นอยู่กับการอบรมเลี้ยงดูเป็นสำคัญ<br />3. พัฒนาการทางสังคม เริ่มรู้จักการคบเพื่อน เล่นกับเพื่อน ปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน รู้จัก<br />การร่วมมือ การยอมรับฟัง เริ่มรู้จักการแข่งขันระหว่างกลุ่มเมื่ออายุ 4-5 ขวบ และมักเล่นกับเพื่อนเพศเดียวกัน การเล่นกับเพื่อนนี้จะช่วยให้เด็กเกิดความรู้สึกอบอุ่น ไม่รู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้ง<br />4. พัฒนาการทางภาษา จะเป็นไปทีละขั้น เริ่มใช้ภาษาได้ดีพอสมควร รู้จักศัพท์เพิ่มขึ้น<br />รวดเร็ว เรียนรู้คำใหม่ๆมากขึ้น<br /><br />ทฤษฎีพัฒนาการด้านภาษา<br />1. ทฤษฎีความพึงพอใจแห่งตน<br />2. ทฤษฎีการเลียนแบบ (The Imitation Theory)<br />3. ทฤษฎีเสริมกำลัง (Reinforcement Theory)<br />4. ทฤษฎีการรับรู้ (Motor Theory of Perception)<br /><br />บทบาทของครูปฐมวัย<br />เมื่อถึงเวลาเข้าสู่สังคมแห่งการศึกษาในโรงเรียน บุคคลที่มีความสำคัญไม่แพ้ “พ่อ” “แม่” นั่นคือ ครู เนื่องจากเมื่อเด็กเข้าสู่วัยเรียน ครูจะเป็นผู้ที่คอยให้ความรู้และรักษากฎระเบียบ โดย ครูเฉพาะการเป็นตัวแบบที่ดีให้กับเด็ก ซึ่งครูมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ<br />1. ความรู้ของครู หากครูมีความรู้เกี่ยวกับหลักการและวิธีการพัฒนาทักษะทางภาษาได้<br />2. เจตคติของครู หรือความรู้สึกที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาทักษะทางภาษา ย่อม<br />3. บุคลิกภาพและพฤติกรรมของครู เนื่องจากเด็กสามารถเรียนรู้และเลียนแบบจากครู<br />4. ความสามารถในการใช้ภาษาของครู หากครูมีความสามารถในการเลือกใช้คำ<br />5. การสอนของครู ครูมีบทบาทและหน้าที่โดยตรงในการจัดกิจกรรมให้กับเด็ก ถ้าครูจัด<br />ปัจจุบันการจัดสิ่งแวดล้อมที่ดีมีสถานเลี้ยงเด็กที่ได้มาตรฐาน มีพี่เลี้ยงเด็กที่มีความรู้ เข้าใจ ความต้องการ พัฒนาการเด็กจะส่งผลให้เด็กได้รับความรัก ความอบอุ่น ความมั่งคงทางจิตใจ เมื่อเด็กโตขึ้นสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้อย่างมีความสุข หนังสือสำหรับเด็กจะทำให้เด็กเป็นผู้มีสุขภาพจิตดี มีความสุข มองโลกในแง่ดีและปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้<br />ในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็กปฐมวัยเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในการสร้างหนังสือสำหรับเด็ก การอ่านคำกลอนให้เด็กฟังเป็นเทคนิคหนึ่งที่นิยมนำมาใช้กับเด็กปฐมวัย ทั้งนี้เพราะคำกลอนเป็นสื่อที่เด็กคุ้นเคย ให้ความสนุกสนานและความรู้ เด็กสามารถเก็บความจากเรื่องที่ฟังได้สมควรแก่วัย<br /><br />บันทึกการเรียนครั้งที่ 2<br />1.อาจารย์ตรวจเครื่องแต่งกายนักศึกษา<br />2.อาจารย์พูดคุยแนะนำการทำบล็อก<br />3.อาจารย์ให้นำข้อมูลที่ค้นคว้าลงในบล็อกของตนเองซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-76968430505128260282009-11-13T00:57:00.000-08:002009-12-03T23:50:25.861-08:00วัน ศุกร์ 13 2552<br /><br />วันนี้ อาจารย์ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ให้ศึกษาค้นคว้า เรื่อง หลักการการจัดประสบการณืซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5476276590153955537.post-23802244483680397522009-11-06T01:47:00.000-08:002009-11-13T00:02:15.781-08:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEheYWJVL-j_oXt8Os2wI4aBXs6DBU9utDYNVWcluXW8GvmBHEwXNJJx8h-YajcXvdH3dqUq9X3HmyOjyBEw-5RvfDEG6QAnsB30oMSorpgwNj2YkF0k67xFsZrH7mzju1h5LfuKbheZDSnI/s1600-h/images%5B1%5D.jpg"><img style="float:left; margin:0 10px 10px 0;cursor:pointer; cursor:hand;width: 131px; height: 94px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEheYWJVL-j_oXt8Os2wI4aBXs6DBU9utDYNVWcluXW8GvmBHEwXNJJx8h-YajcXvdH3dqUq9X3HmyOjyBEw-5RvfDEG6QAnsB30oMSorpgwNj2YkF0k67xFsZrH7mzju1h5LfuKbheZDSnI/s320/images%5B1%5D.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5400927207742291778" /></a><br /> ชื่อ น.ส. ซุนีตา เจ๊ะนุ รหัส 5111209853<br /> วันที่ ศุกร์ 6 พฤศจิกายน 2552<br />เรียนวันแรก<br />1. การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย<br /> หมายถึง การจัดการเรียนรู้ให้เด็กเกิดการเรียนรู้โดยการในภาษาในการถ่ายทอดความรู้และให้เด็กได้แสดงออกโดยการในภาษาในการพูดออกมา หรือต้องการสิ่งใด สามารถแสดงออกมาได้ <br />บรรยายกาศในห้องเรียน<br />2.บรรยากาศในห้องเรียน<br /> ควรจัดมุมสื่อการเรียนรู้จากสัญญาลักษณ์โดยการถ่ายทอดออกมาและเกิดภาษาขึ้น ห้องมีความอบอุ่น หน้าเรียน <br />3.สรุปใจความสำคัญที่อาจารย์ได้พูด<br /> การจัดประสบการณ์ให้เด็กปฐมวัยนั้น ต้องให้เด็กได้เรียนรู้ทั้ง 5 ประสาทสัมผัส <br />และการถ่ายทอดความรู้สึกกออกมาโดยการใช้ภาษาและความรู้สึก ที่จิตใจนึกคิดจากที่ได้สัมผัส<br /><br />4.สรุปเปรียบเทียบ<br /> การจัดประสบการให้เด็กนั้นเราควรหาให้ได้สัมผัสกับสิ่งนั้นให้เกิดการเรียนรู้ก่อนจึงจะสามารถแสดงออกมาให้เป็นผลดีซูนีตา เจ๊ะนุhttp://www.blogger.com/profile/15355568382936550466noreply@blogger.com0